วิธีลดน้ำตาลในเลือด ก่อนลุกลามเป็นเบาหวานแล้วแก้ยาก

วิธีลดน้ำตาลในเลือด ก่อนลุกลามเป็นเบาหวานแล้วแก้ยาก

หากคุณไม่อยากเป็นโรคเบาหวานเรามาดูวิธีลดความเสี่ยงและ วิธีลดน้ำตาลในเลือด ก่อนที่จะลุกลามกลายมาเป็นโรคนี้กัน ถึงแม้ว่าเบาหวานอาจจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตอย่างทันทีทันใด แต่หากร่างกายของเรามีน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในร่างกายตามมาได้ ที่สำคัญโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงแค่ต้องคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเท่านั้น

10 อาหารช่วยลดน้ำตาลในเลือด

10 อาหารช่วยลดน้ำตาลในเลือด

อาหาร นับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งการเลือกกินอาหารประเภทนี้ดีสำหรับทั้งผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดถือว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพสำหรับทุกคนเลยก็ว่าได้

  1. อะโวคาโด

ในอะโวคาโดมีส่วนประกอบสำคัญที่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้นั่นก็คือกรดไขมันอิ่มตัวที่จะเข้าไปชะลอการไหลเวียนของน้ำตาลในเลือด พร้อมกับลดภาวะต้านอินซูลินในร่างกาย นอกจากนี้กรดไขมันอิ่มตัวยังสามารถพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช มะกอก น้ำมันมะกอก และแฟลกซ์ซีดอีกด้วยเช่นกัน

  1. อัลมอนด์

นักโภชนาการหลายท่านแนะนำว่าให้รับประทานอัลมอนด์เพียงวันละ 1 กำมือเล็ก ๆ ก็จะเท่ากับว่าเราสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้แล้ว เพราะมันมีสารสำคัญทั้ง แมกนีเซียม ไฟเบอร์ โปรตีน โครเมียมที่มีสรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดีเยี่ยม

  1. แอปเปิลไซเดอร์

ผลการศึกษาจาก Diabetes Care ระบุว่าเพียงแค่คุณผสมแอปเปิลไซเดอร์ 1 ช้อนชากับน้ำเปล่าแล้วจิบระหว่างรับประทานอาหารก็สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เพราะมันจะเข้าไปกระตุ้นการหลั่งและควบคุมอินซูลินในกระแสเลือดหลังจากที่ร่างกายย่อยอาหารประเภทแป้งไป ทำให้ระดับน้ำตาลมรเลือกดไม่พุ่งสูงเกินไปจนเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2

  1. กระเทียมและหอมแดง

กระเทียมและหอมแดงให้สรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายรวมไปถึงประโยชน์ในด้านลดการน้ำตาลในเลือด ซึ่งสารสกัดในกระเทียมนั้นจะเข้าไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกายโดยเฉพาะกับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

  1. ส้ม

American Diabetes Association แนะนำว่า ‘ส้ม’ สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้เพราะส้มเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลค่อนข้างต่ำ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำตาลในเลือด

  1. โฮลเกรน

การกินโฮลเกรนหรือโฮลวีททุกชนิดเป็นคาร์บโบโฮเดรตเชิงซ้อน ร่างกายจึงสามารถย่อยส่วนผสมนี้ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งพล่าน อีกทั้งมันยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียมซึ่งเป็นตัวช่วยดี ๆ ของเลือดอีกต่างหาก

  1. แซลมอน

เป็นแหล่งสารอาหารชั้นเยี่ยมที่อุดมไปด้วยโปรตีน กรดไขมันโอเมก้า 3 ไนอาซิน และวิตามินซี ซึ่งสารอาหารพวกนี้มันมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีเยี่ยม

  1. ชาเขียว

ผลการศึกษาจาก National Center for Complementary และ Alternative Medicine เผยให้เห็นนว่าชาเขียวมีคุณสมบัติในการลดน้ำตาลในเลือดและยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

  1. ข้าวโอ๊ต

ข้าวโอ๊ตจัดว่าเป็นอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและมีประโยชน์ในการช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดเพราะมันเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่สามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมอาหารและเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลอย่างช้า ๆ จึงไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงเกินกว่าเกณฑ์อย่างแน่นอน

  1. ผักใบเขียว

พืชและผักแทบทุกชนิดมักจะเป็นตัวช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดีเยี่ยม เพราะในผักใบเขียวมักจะอุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่เป็นแหล่งสารอาหารชั้นเลิศของเลือดเมื่อกินเข้าไปแล้วเลือดก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีขึ้นได้

วิธีลดน้ำตาลในเลือด ก่อนลุกลามเป็นเบาหวานแล้วแก้ยาก

พฤติกรรมที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินและช่วยกระตุ้นให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
  2. ควบคุมน้ำหนัก เพราะความอ้วนที่เกิดจากการทานแป้งและไขมันมากเกินไปมักเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  3. จิบน้ำบ่อย ๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้นและช่วยทำให้ตับขับน้ำตาลส่วนเกินออกไปทางปัสสาวะส่งผลให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูงเกินเกณฑ์
  4. พักผ่อนให้เพียพอ เพราะหากร่างกายได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง ส่งผลให้รู้สึกอยากของหวานและเสี่ยงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
  5. ตรวจวัดระดับน้ำตาล จะช่วยให้เราทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือดของตัวเองได้ว่าสูงหรือต่ำเกินไปหรือเปล่า

หากคุณปฎิบัติตามพฤติกรรม 5 ข้อนี้ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้รับรองว่าคุณจะปลอดภัยและห่างไกลจากโรคเบาหวานอย่างแน่นอน ที่สำคัญมันยังทำให้คุณสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยตัวเองแบบไม่ต้องใช้ตัวช่วยใด ๆ ทั้งสิ้น

อ้างอิง :